UDOM "NOTE" TAEPANICH

"DOM DOG"

scale : 1/12
high  : 19 cm.(รวมฐาน)
sculpted : Pung
Painted : Pung

ขอบคุณที่รับชมนะครับ งานหน้าแนวmilitary เจอกันครับ

"น้องฟ้า" Kawaiiii !!

สำหรับงานfigure "น้องฟ้า" ครั้งนี้เป็นงานที่คนแถวๆบ้านจ้างให้ทำครับเพราะจะนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องฟ้า  ยังไงขอHappy Birth Day  กับน้องด้วยละกันครับ  หวังว่าคงทำได้คล้ายน้องล่ะเนาะ ("w")
ส่วนข้อมูลน้องฟ้านั้น  รูปต่างๆก็ได้จากแฟนน้องเค้าเซฟใส่USBมาให้   เยอะมากแต่หามุมชัดๆแทบไม่มีเพราะน้องเขาใช้กล้องมือถือถ่าย  ถ่ายมุมกดบ้างมุมมืดบ้าง  ถ่ายใส่กระจกมีกล้องบังหน้าบ้าง  ก็เลยต้องปวดหัวนิดนึงตอนปั้นหัว  หมดไป3วันทำได้แค่หัวเอง

ใช้ภาพนี้ดูแบบซะส่วนใหญ่ ชัดที่สุดแล้ว

หลังจากปั้นหัวจนพอใจแฟนน้องเขาแล้ว  ก็มาปั้นตัว  วัสดุอุปกรณ์ก็เหมือนกับงานก่อนๆครับ  จุดที่ใช้เวลาทำนานกว่าส่วนอื่นก็มีกระโปรงกับมือ  มือนั้นใช้ลวดทองแดงมาดัดให้เป็นรูปมือก่อนแล้วจัดท่าที่หลัง แล้วพันด้วยเทปกาว 

ลงสีด้วยสีGunze  งานนี้หมดสีชาวไปขวดนึง  เพราะผิวน้องเขาขาวแล้วมีส่วนของสีผิวเยอะ  แล้วก็ชุดนักเรียนอีก   ส่วนฐานใช้แผ่นอครีลิค ปั้นชื่อติดลงไปลงสีด้วยสีฟ้า  พ่นเคลียร์ด้านลงบนfigure เป็นอันจบงานครับ

Figure น้องฟ้าตัวนี้อยู่ในscale 1/12ครับ สูง12.7 ซม.  เพราะที่แฟนเค้าบอกมาตัวน้องเขาเป็นคนตัวเล็กๆ  รายละเอียดบนชุด  อักษรย่อพ.น.ร.(โรงเรียนพระนารายณ์ ลพบุรี)เขียนด้วยพู่กัน  ส่วนชื่อนั้นถ้าจะให้เขียนตาผมคงบอด  เลยใช้พู่กันแต้มๆพอดูออก  เนื่องจากงานนี้ค่อนข้างรีบเร่งทำเลยไม่ได้ถ่ายภาพตอนทำไว้เลย ต้องขออภัยด้วยครับ(TwT)
ส่วนงานหน้านั้นกำลังเลือกอยู่ครับว่าจะทำตัวอะไร   แต่เร็วๆนี้แน่นอน   สำหรับขั้นตอนการปั้นหัวหรือbodyโดยละเอียดกำลังทำครับ เผื่อบางท่านอยากเรียนรู้เทคนิค ยังไงคอยติดตามกันนะครับผม("w")

 ********************************************************************

"Stephen Chow" King of comedy

โจวซิงฉือ หรือ Stephen Chow ดาราตลกระดับซุปเปอร์สตาร์ของฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันก็อยู่เบื้องหลังงานภาพยนตร์ต่างๆมากมาย ถึงจะไม่ดังในบ้านเรานักเพราะเฮียแกไม่เล่นเอง แต่หนังในอดีตของแกก็มีหลายเรื่องที่เขาทั้งแสดง,เขียนบท,กำกับหรือแม้กระทั่งอำนวยการสร้าง เท่าที่เคยอ่านประวัติมา เขาเริ่มจากเป็นแค่ตัวประกอบ กว่าจะมามีชื่อเสียงระดับอินเตอร์ถือว่าเป็นบุคคลที่พยายามมากคนนึงที่ผมชื่่นชอบเลย
มาที่ตัวฟิกเกอร์ครับ ต้นแบบที่ใช้คือภพจากหนังเรื่อง "King of Comedy"หรือชื่อไทย "คนเล็กไม่เกรงใจนรก"หนังปี 1999 ครับ แต่ไม่ได้ทำตามภาพเป๊ะ ผมจัดท่าทางให้มองตรงมาข้างหน้าแทน

 

ตัวโมเดลขึ้นโครงด้วยลวดและพันด้วยกระดาษฟอยล์ก่อนจะทำการพอกและปั้นด้วยepoxy putty มีขนาดความสูง15.5ซม.(รวมฐาน) ฐานทำจากแผ่นอครีลิค

 

 "Painting" 


การลงสีใช้สีอครีลิคของ Gunze ลงทั้งตัวเหมือนเดิมครับ โดยทำสีที่หัวและมือที่เป็นสีนื้อก่อน เทคนิคการทำสีผิวของผมคือจะไม่ได้ทำแบบเน้นแสงเงาเหมือนภาพวาด หรือแบบที่นิยมทำกันในโมเดลสเกลเล็กๆ แต่จะทำให้เหมือนลักษณะของผิวหนังคนจริง ที่มีรอยคล้ำ,รูขุมขน,ฟ้า,กระต่างๆ ชั้นผิวเข้ม อ่อน ซึ่งเป็นการทำสีที่ผมลองทำเป็นครั้งแรก อาจจะออกมายังไม่ดีนัก แต่พอเริ่มเห็นเป็นแนวทางแล้ว

หลังจากเส็จขั้นตอนทำสีผิวแล้วจึงมาทำสีเสื้อผ้า ทำแสงเงาพอประมาณเก็บรายละเอียดพวกกระดุม เนคไทค์ จากนั้นพ่นเคลียร์ด้านทั้งตัวเว้นส่วนรองเท้าไว้ เพราะเป็นรองเท้าหนังจึงบังพ่นเคลียร์เงาท้ายสุด ทำสีตัวหนังสือที่ฐานด้วยสีทองก็จบงานครับ

ขอบคุณที่รับชมครับ จุดบกพร่องในงานครั้งนี้จะนำไปพัฒนาแก้ไขในงานต่อๆไป หวังว่าจะติดตามรับชมกันนะครับ
พบกันใหม่ในงานหน้าครับ ("w")/

Making of Edward Cullen Figure

  figure เอดเวิร์ดตัวนี้ เป็นการทำงานครั้งแรกกับการปั้นสไตล์รูปเหมือน  ซึ่งออกมาก็ไม่แน่ใจว่าเหมือนมั๊ย ("w") แต่ก็พยามให้คล้ายมากที่สุดแล้ว  หลังจากหาข้อมูลภาพเยอะมากกกกกกก ก็ลงมือเลย โดยเลือกต้นแบบจาก Twilightภาคแรก ภาพนี้

ทีนี้ก็มาเริ่มปั้นหัว  ตอนแรกก็งงว่าจะเริ่มยังไงดีฟะเนี่ย  ทำไปทำมา  เฮ้ย!เริ่มคล้าย  ก็ร่ายยาวเลยทีนี้ เฉพาะหัวก็หมดไป1วันแล้วมาทำตรงผมอีก1วัน

1วันแรกได้พระมา1รูป

อีก1วันได้ Robert Pattinson( ํ w  ํ)

 หลังจากได้หัวแล้วก็มาทำส่วนลำตัวก็ขึ้นโครงลวด  แล้วใช้กระดาษฟอยล์มาพอกเป็นรูปร่างคร่าวๆ แล้วปั้นต่อด้วยputty  การปั้นส่วนตัวขอข้ามรายละเอียดเพราะไม่ค่อยมีอะไรมากนอกจากค่อยๆพอกputtyแล้วเก็บรายละเอียดไปเรื่อยๆ  ดูสัดส่วนดีๆ  ดูแบบครับต้องดูแบบ  สำคัญเลย
พอเส็จทั้งตัวแล้วก็ทำฐานยืนจะได้ดูมีคุณค่าหน่อย  ใช้หลักการเดียวกับการทำตัวก็คือใช้ฟอยล์มาขยำเป็นก้อน  แล้วใช้ค้อนทุบเบาๆให้เป็นรูปทรง  พอกputty  ตัวหนังสือ twilight ก็ใช้puttyมาปั้นเป็นเส้น นำไปติดที่ฐานแล้วใช้อุปกรณ์แต่งให้เหมือนกับแบบ  ใช้ลวดเป็นตัวยึดฟิกเกอร์จะได้ยืนให้มั่นคงหน่อย

พร้อมลงสีแล้วววววว

ทีนี้มาถึงช่วงระทึกใจว่าจะออกมาเละมั๊ย อ่านเจอในหนังสือเค้าบอกว่า " งานpaintคือการใส่ชีวิตให้กับตุ๊กตาดิน"  จะลงสียังไงให้เหมือนกับว่ามันเป็นคนจริง อันนี้ต้องใช้ทั้งทักษะ,เทคนิค,ประสบการณ์และการสังเกตุครับ  เนื่องจากผมเองเคยเล่นplamodelพวกรถถัง ตัวทหาร1/35 มาก่อน  ก็พอจะมีเทคนิคลงสีอยู่บ้าง  แต่พอมาเจอตัวใหญ่มันต่างกันครับ  เพราะเราต้องใส่รายละเอียดเยอะกว่าเพราะตัวใหญ่แน่นอนว่าต้องเห็นได้ชัดเจน 
การลงสีผิวนั้นเนื่องจากพระเอกของเราเป็นแวมไพร์  ผิวสีจะออกขาวซีดๆ ขอบอกว่าผสมสียากมาก  อันที่จริงลงสีไป2รอบกว่าจะได้สีที่ไกล้เคียงจริงๆ  ทีนี้หน้าคนเราผิวไม่ได้มีแค่สีเดียว  ก็มานั่งดูว่าผิวหน้าตรงไหนผิวเข้มผิวอ่อน  ขอบตาคล้ำๆ ไรหนวดตรงคาง แก้มตอบๆ ใบหู  แล้วก็ต้องดูแสงเงา  แสงสว่าง  ถามว่าทำไมต้องเยอะขนาดนั้น  ง่ายๆครับ  ถ้าลงสีิผิวสีเดียวซีดๆมันก็จะเหมือน"จ่าเฉย" ดูเป็นแค่ตุ๊กตาของเล่น  สำหรับการลงสีผิวหมดไป3วันครับ ตาลายไปเลย

เพ้นท์เส็จสีจะยังเงาอยู่ก็มาพ่นเคลียด้านหลังจบงาน

 การลงสีผมใช้สีอะคลีลิคของกันเซ่(Gunze)สูตรทินเนอร์  เป็นสีสำหรับงานโมเดลโดยเฉพาะครับ  แห้งเร็วดี  แต่อาจจะเกลี่ยสียากหน่อยไม่เหมือนสีอินาเมลของTamiyaหรือสีน้ำมัน  เนื่องจากผมถนัดเลยไม่เป็นปัญหามาก  เวลาทำงานกับสีพวกนี้ตองหาที่อากาศถ่ายเทดีๆหน่อยเพราะกลิ่นมันอันตรายต่อสุขภาพ  หลังจากลงสีเส็จทั้งหมดแล้วก็พ่นเคลียด้านครับ เว้นส่วนรองเท้าที่ปล่อยให้มันเงากับฐาน  ตัวฐานผมเอาเคลียใสมาทาแต้มให้เหมือนกับพื้นเปียก  ใช้สีขาวเขียนชื่อ"Edward Cullen"ที่ฐาน  สุดท้ายเลยก็เอาเคลียใสมาทาที่ตาให้ตาดูมีน้ำหน่อย  เป็นอันจบงานครับ  ใช้เวลากับตัวนี้ 1เดือนกว่าๆ

Desk Dairy

ประเดิมblogนี้บทความแรก ก็เลยว่าจะแนะนำเครื่องมือทำมาหากินซะหน่อย ของบางอย่างที่มีก็หาเอาแถวๆนี้ล่ะครับ ใครจะเอาไปลองทำมั่งก็ได้ครับ ประหยัดงบดีไม่ต้องไปหาซื้อให้ยุ่งยาก(เพราะแถวบ้านไม่มีขาย) แล้ววันนี้ก็จัดของใหม่ด้วยจะได้ไม่รกโต๊ะเพราะว่า รกมากกกกก (- -')

ปกติจะเป็นแบบนี้

ทีนี้มาดูอุปกรณ์ปั้นบ้านๆกัน บางอย่างก็ทำเอาเอง ("w") ถึงไม่ใช่อุปกรณ์แบบมืออาชีพ แต่สามารถทำงานออกมาได้ดีเป็นชิ้นเป็นอันก็พอแล้วล่ะครับ ก็มีไขคงปากแบนขนาดเล็ก,แท่งไม้จิ้มฟันปลายอีกด้าหุ้มputtyแล้วปั้นให้แหลม,เข็มหมุด,ไม้แคะหู,อาร์ตไนฟ์,ด้ามพู่กันที่เสียๆ,แปลงเก็บได้จากถังขยะแล้วก็แปลงสีฟันที่กำลังจะทิ้ง

ก็มีอยู่เท่านี้ อาจมีเพิ่มบ้างตามโอกาสแต่นี่คือหลักๆ

 หลังจากที่เอายัดๆรวมกันไว้ในลิ้นชักก็เลยเอามาใส่โหลให้เป็นระเบียบหน่อย ที่อยู่ในโหลก็คือที่ต้องใช้บ่อยๆ ทั้งพู่กันทาสี,ตะไบ,กรรไกรกับพวกแหนบ ทีนี้ก็หยิบจับง่ายกว่าคุ้ยหาในลิ้นชัก ซึ่งต้องใช้คำว่าคุ้ยจริงๆเพราะของเยอะมาก บางอย่างเป็นเศษขยะด้วยสิไว้โอกาสหน้าต้องเคลียลิ้นชักซะหน่อยแล้ว ("^")

กระดาษทรายก็ตัดเป็นแผ่นเล็กๆแล้วหาที่หนีบมาเก็บให้เรียบร้อย เอาออกมาใช้ง่ายด้วยนะเออ

อันนี้ว่าจะหาที่แขวนแต่ตอนนี้นอนในลิ้นชักไปก่อน

มาดูตู้เกบของหน่อย ดูสภาพหลังจากที่เก็บไปเมื่อปีใหม่ ตอนนี้เริ่มกลับสู่สภาพเดิม(*A*)" รกและมั่วสุดๆ ไม่แปลกใจถ้าจะมีหนูอยู่ในนั้นแต่โชคดีที่ไม่มีไม่งั๊นได้ซื้อใหม่แน่ครับพี่น้อง ไว้งวดหน้าค่อยเก็บ ทนใช้ได้อีกประมาณเดือนนึง ("w") วันนี้แค่เคลียโต๊ะก็สุดๆแล้วในบ้านร้อนหยั่งกับโรงถลุงเหล็ก น้ำก็ไม่ไหล แอร์ก็มีแค่ห้องนอน แถมต้องมานั่งโหลดการ์ตูนอีก (T^T)อันหลังนี้สำคัญสุดๆ

ตู้นี้แหละ อัดแน่นทั้ง4ชั้นเลยเชียว

มาดูที่ชั้นแรก ใช้เก็บพวกสีกับกาว,น้ำยาฯลฯ มีสีมาเพิ่มเยอะยังไม่ได้จัดเลยก็เลยมั่วๆหน่อย

ชั้นที่2เก็บพวกเศษวัสดุ(ขยะ)ที่ดูแล้วพอจะมีประโยชน์ ก็เอามายัดๆรวมกันไว้ พวก หญ้าเทียม,ไม้ไอติม,ทราย,ก้อนหินอะไรพวกนี้แหละ ซึ่งคิดว่าต้องทิ้งซะบ้างแล้วล่ะ

- -" เปิดกี่ครั้งก็สะเทือนใจ

ชั้นที่3เก็บจานสี ผ้าขี้ริ้ว(ก็ยังอุตส่าเก็บ) ลวด เครื่องมือพวกเรื่อย,มีด,ไขควงกับพวกปูนปาสเตอร์

ชั้นสุดท้ายนี่ เป็นพวกเศษโมเก่าๆที่ทำเละเทะไว้กับที่ได้รับบริจาคมากับเศษที่มันเหลือๆ เผื่อไว้เป็อะไหล่ได้ เก็บแยกๆไว้เป็นหมวดหมู่พวก แขน,ขา,ลำตัว,อุปกรณ์ ซึ่งเอามาสร้างเป็นตัวใหม่ได้เลยโมดิฟายนิดหน่อย อันนี้น่าจะเป็นชั้นที่มีระเบียบที่สุดแล้วนะเพราะของน้อย

แยกเก็บแบบนี้นะเออ หาอะไรจะได้หาง่ายๆ

เคลียเส็จแล้วโต๊ะทำงาน ไว้คราวหน้าลุยลิ้นชัก

เวลาทำงานมันก็ต้องโกปิโก้กับบ๊วยนะเออ แล้วจะนั่งจ้ำทำงานได้ทั้งวัน

วันนี้ก็พอเท่านี้เพราะร้อนมากกกกก ไม่อยากทำไรต่อแล้ว ("A") ํ
คราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นขอคิดก่อน แต่ Desk Diary นี่จะมีอีกแน่นอนเพราะดูแล้วโต๊ะนี้ยังต้องผ่านการจัดอีกหลายครั้ง ยังไงช่วยติดตามblogนี้กันด้วยนะคร๊าบบบบบ \( ํw ํ)/ Bye!!